วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Gear Review: Altra Solstice >> Excellent choice for a racing flat lover!


นักวิ่งคนไหนเป็น Racing flat lover ชอบรองเท้าวิ่งพื้นบางๆ น้ำหนักเบาๆ วิ่งแล้วตัวเบาหวิวเชิญมาทางนี้ค่า วันนี้เราจะมาพูดถึง Altra Solstice รองเท้าวิ่งถนนรุ่นใหม่จาก Altra คำโปรยของรองเท้ารุ่นนี้ก็คือ “ the perfect fit. It is breathable, soft, flexible and affordable ” เรามาดูกันค่ะว่าจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า


Shoe Specs
Weight        Men's - 7.5 oz (size 9) | Women's - 6.4 oz (size 8)        

Stack Height        17 mm (Heel), 17 mm (Forefoot) | 0 mm heel-toe offset

 1. Upper Altra ใช้  Breathable engineered mesh เป็นผ้า mesh ที่บางเฉียบ แถมยังนุ่ม ยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ดีจนเกือบจะเป็นผ้า knit อยู่แล้ว โดยตรงส่วนกลางเท้าไปจนถึงส้นรองเท้ายังเสริมผ้า mesh เพื่อความแข็งแรงและทำให้รองเท้าอยู่ทรง ไม่ย้วย Upper ตรงส่วนกลางจนถึงส้นจะมีพลาสติกขึ้นลายกราฟฟิก 3D เพิ่มความสวยงามน่ามอง นอกจากนี้ยังมีพลาสติกขึ้นรูปคาดตรงกลางเท้าบริเวณรูเชือกรองเท้าเพื่อเพิ่มความกระชับอีกด้วย 


ลิ้นรองเท้ามีความหนาที่พอดี ดู minimalist แต่ก็ไม่บางจนเกินไปที่จะรู้สึกถึงแรงกดของเชือก ส่วนของเชือกรองเท้าออกแบบมาได้ simple เป็นแบบทรงมีทั้งความกลมและความแบน ใช้ง่าย มัดแน่นไม่เลื่อนหลุด และไม่กดหลังเท้า ส่วนของที่หุ้มข้อเท้า(heel cup) ด้านบนที่เป็นบริเวณรอบๆข้อเท้าจะหนาและนุ่มกว่าส่วนอื่น 
ช่วยให้รู้สึกสบายและกระชับเมื่อสวมใส่ค่ะ 





2. Midsole Altra ใช้ High Abrasion EVA 1.         วัสดุคุณภาพสูงที่มีความนุ่ม น้ำหนักเบา ซับแรงกระแทกและยืดหยุ่นได้ดีมาเป็น Midsole นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีประจำแบรนด์นั่นก็คือ Inner Flex™ Inner Flex™ 1.         ถูกออกแบบให้เป็นร่องที่มีความยืดหยุ่นคล้ายตารางอยู่ตรง   Midsole ที่จะช่วยให้เราสามารถวางเท้าเวลาวิ่งได้ตามที่ต้องการ


     3.  Outsole ตรงส่วนนี้ Altra มีการผสมผสานวัสดุสองประเภท นั่นก็คือ EVA คุณภาพสูงที่มีน้ำหนักเบา flexible ยืนหยุ่นและซับแรงกระแทกได้ดีประกอบกับ Rubber หรือยางที่มีคุณสมบัติเด่นคือ ความทนทาน ทำให้ Solstice มี Outsole ที่ทั้งยืดหยุ่น ซับแรงกระแทก และมีความทนทาน ไม่สึกง่ายค่ะ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี FootPod™  ที่ช่วยให้ Outsole มีความยืดหยุ่นรับกับฝ่าเท้าทั้งในส่วนของกระดูกและเส้นเอ็น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวและการวางเท้าเวลาวิ่งได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น



     4. Fit4Her อันนี้สำหรับสาวๆโดยเฉพาะ Altra เค้ามีความพิถีพิถันในการออกแบบว่า รองเท้าผู้หญิงจะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สอดคล้องกับรูปเท้าของผู้หญิงที่มีความแตกต่างจากของผู้ชาย ซึ่งมีถึง 9 ข้อ

- Narrower Heel
- Female-Specific Midsoles
- Longer Arch and Narrower Midfoot
- Higher Instep
- Female-Specific Cushioning
- Female-Specific Metatarsal Positioning
- Female-Specific Last and Upper Fit
- Female-Specific Shape
- Female-Specific Outsoles


มาถึงการใช้งานจริง…ตอนที่เห็นรองเท้าของจริงครั้งแรก รู้สึกเลยว่า สวยมากๆ สวยผิดหูผิดตาแบรนด์ Solstice ของเราเป็นสีฟ้า ฟ้าแบบพาสเทลเลยค่ะ สวยหวานสุดๆ การออกแบบก็ดูทันสมัยโฉบเฉี่ยวลงตัวมาก มีกลิ่นอายของรองเท้า racing ลอยฟุ้งเลยค่ะ สิ่งที่ต้องชมถัดมาคือ น้ำหนักเบามากๆ แค่ถือก็รู้สึกว่าเบาแล้ว พอใส่วิ่งแล้วยิ่งเบาไปอีก มันเบาจนรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่รองเท้า เราเคยอ่านรีวิวนักวิ่งคนอื่น เขาถึงขนาดคอมเมนท์ว่า รองเท้าเบามากจนวิ่งแล้วยังงงๆ คือวิ่งไม่ออกเลย ขนาดนั้น!

ส่วนหน้ารองเท้ายังคงเอกลักษณ์ของ Altra นั่นก็คือ กว้างขวางโอ่โถง ขยับเท้าได้สบาย แต่ถึงหน้าจะกว้างยังไงก็ยังกระชับมากๆ Solstice คู่นี้น่าจะเป็น Altra ที่กระชับที่สุดเท่าที่เคยลองใส่มาแล้วค่ะ ทั้งตรงข้อเท้าและตรงกลางเท้าด้านบน จะใส่วิ่ง ใส่กระโดดขนาดไหนก็มั่นใจหายห่วง ขอออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้เป็นคนวิ่งเร็ว แต่ไม่มีปัญหากับการใส่รองเท้าบาง พอได้ลองใส่วิ่งแล้วก็ต้องยิ้มเลย มันทั้งแน่น ทั้งมั่นคง และตอบสนองได้ดีมากๆค่ะ วิ่งเร็วก็สนุก วิ่งช้าก็สบายๆ สิ่งที่ชอบมากๆอีกอย่างหนึ่งคือ ความแข็ง เนื่องจาก Solstice ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม racing จึงค่อนข้างแข็ง ไม่ได้นุ่มเท่ากับรุ่นอื่นๆ ซึ่งเราชอบมากๆ (ถ้าใครอ่านรีวิวเรามาตลอด จะรู้ว่าเราชอบรองเท้าแข็ง) ตอบสนองได้ดี เด้งในแบบแข็งๆบางๆนั่นแหละค่ะ เวลาวิ่งลงเท้าแต่ละทีคือ อื้อหือ ฟิลลิ่งและพื้นผิวสัมผัสดีมากๆ



มาถึงส่วนที่คิดว่าควรปรับปรุง ไม่มีค่ะ! ในส่วนของ Racing/ Uptempo Shoes เราว่า Solstice ทำหน้าที่ได้ดีมาก เบา เด้ง ส่งแรงได้ดี ไม่มีอะไรจะติ นอกจากอยากให้ Altra Thailand นำเข้าสีมาให้เลือกมากกว่านี้ เพราะตอนนี้สำหรับสาวๆมีให้เลือกแค่สีเดียวคือ สีฟ้าพาสเทลนี่แหละค่ะ อยากได้สีม่วงบ้างงงงง

สรุป  Solstice เป็น Altra อีกรุ่นที่เราชอบมากๆ เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ชอบรองเท้าเบาและบาง ตอบสนองได้ดี เป็นสายแข็งชอบทำความเร็ว หรือจะเป็นสายรักสบายแบบเราที่วันดีคืนดีอยากจะวิ่งเร็วหน่อยบ้างก็ได้ ลองเทียบกับคู่แข่งในแบรนด์เดียวกัน Escalante เรามีรุ่นแรกอยู่ ถ้าถามว่าชอบคู่ไหนมากกว่ากัน ตอบแบบไม่ลังเลเลยว่า ชอบ Solstice มากกว่าค่ะ ชอบความแน่น และความแข็ง ความกระชับ และผ้า knit ไม่จำเป็นสำหรับเราเท่าไหร่ อีกปัจจัยก็คือ ราคาค่ะ Solstice ราคาน่ารักเป็นมิตร หลายคนที่กำลังตัดสินใจหารองเท้าบางๆไว้วิ่งสนุกๆซักคู่หนึ่ง เราอยากจะนำเสนอ Solstice ไว้พิจารณาค่ะ  เชียร์แรงๆ!

** รองเท้าคู่นี้ซื้อเอง ใช้เอง รีวิวด้วยตัวเองค่ะ **  

        

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Gear Review : Salomon S-Lab Sense Ultra >> My Favorite trail running shoes of the year 2018 !



เมื่อปีที่แล้ว ถ้าใครได้มีโอกาสติดตามนักวิ่งทีม Salomon จะคุ้นตากับรองเท้าเทรลคู่สีแดงดำ โดยเฉพาะ Killian Jornet ที่ใส่รองเท้าคู่นี้ลงแข่งชนะหลายรายการมาแล้ว นั่นก็คือ S-Lab Sense Ultra รองเท้าเทรลรุ่นพิเศษที่ทาง Salomon ร่วมกันออกแบบกับ Kilian นั่นเอง
เราสนใจรองเท้ารุ่นนี้มานานแล้ว แต่เสียดายที่ Salomon Thailand ไม่เอาเข้ามาขาย เลยต้องหาจากที่อื่น ตามหากันอยู่นานมาก ของหมดบ้าง ไซส์หมดบ้าง ราคาก็แทบไม่ยอมลดลงมาเลย สุดท้ายไปเจอที่ออสเตรเลีย คือต้องหากันข้ามทวีปทีเดียวค่ะ  มาดูกันว่ารองเท้ารุ่นนี้มีดียังไงถึงกลายเป็นรองเท้าในตำนานที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของ Salomon


ข้อมูลพื้นฐาน
Weight: 9.7 oz. /275g  ( US Men's Size 9)
26mm heel/18mm forefoot, 8mm drop


1.        Upper
     Salomon มักจะออกแบบรองเท้าในไลน์ S/lab เป็นสีแดง ขาว และดำ คู่นี้ก็เช่นกัน เป็นสีดำสลับแดงในรูปแบบที่ conservative  เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เป็น Salomon style ที่เห็นไกลๆก็รู้ว่าเป็น Salomon  ส่วนของ upper ใช้วัสดุเป็นSensifit/Endofit upper เป็นผ้า mesh คุณภาพสูงที่มีความยืดยุ่น ระบายอากาศได้ดี และสวมใส่สบายมากๆ  ตรงส่วนปลายของรองเท้ามี toe bumper ที่ช่วยป้องกันนิ้วเท้าเวลาไปเตะอะไรเข้าในระหว่างวิ่ง ซึ่งถูกออกแบบให้คลุมมาถึงส่วนด้านบนของรองเท้าโดยเป็นรูปโค้งไปตามรูปเท้าตามสไตล์ Salomon ที่มักจะมี toe bumper ใหญ่กว่ายี่ห้ออื่น  



นอกจากนี้ ตรงส่วนกลางเท้ายังมีเทคโนโลยี The Endofit คือแผ่นบริเวณลิ้นรองเท้าด้านใน ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการโอบกระชับตรงกลางเท้าเพื่อการเคลื่อนไหวที่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนของลิ้นรองเท้าก็หนานุ่มกำลังดี ไม่กดเท้าเวลาวิ่งเลย และที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ เชือกรองเท้าที่เป็นจุดเด่นของ Salomon คือ Salomon Quicklace system ที่ออกแบบมาให้ไร้แรงเสียดทาน สะดวกต่อการใช้งานที่สุด สามารถดึงเพียงครั้งเดียวก็กระชับทุกส่วน มีตัวล็อคที่แน่นหนา ล็อคเสร็จแล้วก็ม้วนๆเก็บไว้ในช่องเก็บเชือกรองเท้าที่อยู่ด้านบนได้เลย ไม่ต้องกลัวหลุดเลื่อน แน่นหนากระชับขั้นสุด คือ ครั้งเดียวจบจริงๆ


เมื่อพูดถึง Salomon หลายคนมักจะคิดถึงรองเท้าที่หน้าแคบ บีบเท้า แต่สำหรับ S-Lab Sense Ultra คู่นี้มีหน้ารองเท้าที่ขนาดพอดี ไม่กว้างหรือแคบจนเกินไป คนหน้าเท้าบานแบบเราใส่ได้สบายๆค่ะ ส่วน heel collar หรือ upper ด้านบนส่วนข้อเท้าออกแบบมาได้หนากำลังดี นุ่ม กระชับ และใส่สบายข้อเท้ามากๆ เรามักจะมีปัญหากับข้อเท้าที่พอวิ่งไปนานๆมักจะเสียดสีกับตาตุ่ม กับคู่นี้คือ ตั้งแต่ใส่ครั้งแรกก็รู้สึกนุ่ม สบายข้อเท้า เรียกได้ว่า upper ทุกส่วนใส่สบายมากกว่าที่คิดไว้มากๆ





           
2. Midsole
Salomon ใช้เทคโนโลยี Energycell+ ที่พัฒนามาจาก S/lab รุ่นก่อนๆที่ช่วยในเรื่องการตอบสนองช่วยส่งกลับแรงกระแทกคืนสู่เท้าในขณะวิ่ง และยังซัพพอร์ตเฝ่าเท้าได้ดีมากๆ ในส่วนของแผ่นรองเท้ามีเทคโนโลยี Ortholite ที่ใส่มาในรองเท้าหลายรุ่น ช่วยในเรื่องการระบายอากาศ ลดกลิ่นเหม็นอับ และมีอายุการใช้งานที่คงทน แถมยังหนานุ่มช่วยซัพพอร์ตเท้ามากกว่ารุ่นก่อนๆด้วยค่ะ



3. Outsole
ส่วนนี้คือพระเอกเลย นักวิ่งหลายคนเคยบอกว่า grip ของ Salomon คือ grip ที่ดีที่สุดในโลก นั่นก็คือ Premium Wet Traction Contagrip เป็น grip ที่เหนียวแน่นหนึบมากกกก เป็นรูปทรงเลขาคณิตหลายรูปแบบ หนา 4 มิลลิเมตร ซึ่งถูกจัดวางอย่างดีเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่สุด เกาะพื้นดีที่สุด ไม่ต้องกลัวลื่น นอกจากนี้ตรงส่วนกลางรองเท้ายังมี ProFeel TPU Film ที่ช่วยในการรับแรงกระแทก เรียกได้ว่า ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการใช้งานในวันที่ยาวนานของนักวิ่ง Ultra กันเลยค่ะ




มาถึงการใช้งานจริงกันบ้าง S/lab Sense Ultra คู่นี้เป็นรองเท้าอีกคู่ที่เราไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อน คือ ซื้อแบบ blind buy นั่นเอง พอได้เห็นตัวจริงของรองเท้าเป็นครั้งแรก อื้อหือ มันพรีเมี่ยมมาก สวยงามตามท้องเรื่อง เป็นรองเท้าที่ Salomon มากๆ 5555  พอได้ลองสวม ลองวิ่งครั้งแรกก็ยิ้มเลย upper ใส่สบายมากกกกก คือตอนแรกที่เห็นว่า รองเท้ารุ่นนี้ออกแบบมาให้ Kilian ก็คิดว่า มันคงไม่ได้ใส่สบายมากตามสไตล์ Elite ปรากฏว่ามันกลับใส่สบายสุดๆเสียอย่างนั้น พื้นรองเท้าแม้จะหนาแต่ Salomon ก็ยังเป็น Salomon นั่นก็คือ พื้นแข็งนั่นเอง นี่คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่เรารักแบรนด์นี้  เราชอบรองเท้าแข็งค่ะ S/lab Sense Ultra คู่นี้ ตอบสนองได้ดี หนึบหนับ ไม่ยวบ ไม่เคยรู้สึกไม่มั่นคงเลย Stability ดีเยี่ยม แต่ก็ยังสามารถวิ่งบนทางถนนได้สบายๆ ไม่ทรมานเท้าจนเกินไปนัก




     เราเลือก S/lab Sense Ultra คู่นี้ ไปวิ่งงาน CM6 ระยะ 92 กิโล ทางวิ่งเป็น technical terrain หิน ดิน ทราย รากไม้ ลำธาร และถนน ตลอดทั้งเรซเรารู้สึกมั่นใจมากๆ จะวางเท้าจะลงเท้า จะกระโดดไปมายังไงก็แทบไม่ลื่นเลย วิ่งนาน 20 ชั่วโมง++ ก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดี ไม่งอแงเลย จนพาเราวิ่งจบแบบไม่เจ็บเลย เป็นความประทับใจส่วนตัวกับ S/lab Sense Ultra คู่นี้เลยค่ะ




สิ่งที่ควรปรับปรุง... สำหรับตัวรองเท้า ไม่มีเลยค่ะ! จะมีก็แต่เรื่องการที่หาซื้อยากมากเท่านั้นเพราะไม่มีขายในเมืองไทย แถมราคาก็ไม่ลงอีกต่างหาก อีกอย่างที่ต้องพิจารณาให้ดีก็คือ Salomon ขาย S/lab Sense Ultra แบบรองเท้า Unisex คือ ผู้หญิงต้องเลือกจากไซส์ผู้ชาย ถ้าซื้อแบบไม่เคยใส่ Salomon มาก่อนอาจสับสนได้ ต้องวัดขนาดเป็นเซนติเมตรถึงจะดีที่สุดค่ะ


สรุป ทุกอย่างใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์แบบ ทั้งการออกแบบ วัสดุ ทำออกมาได้ลงตัวและงานดีงานพรีเมี่ยมมากๆ ส่วนของการใช้งาน ไม่ว่าทางจะเป็นสภาพแบบไหนก็พาไปได้หมด ลุยได้ทุกสถานการณ์ ยกให้เป็นรองเท้าเทรลที่ดีที่สุดสำหรับเราในปีนี้เลย รักจริงๆเลยคู่นี้ มันควรค่าจะเป็นรองเท้าในตำนาน เป็น rare item เป็นรุ่นที่สาวก Salomon ควรมีจริงๆค่ะ Highly Recommended !    


วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2561

Gear Review : Altra Torin 3.5 Mesh >> My All-Time Favourite Road Running Shoes!


Torin คือรองเท้ารุ่นที่เรารักที่สุดของ Altra ที่ไม่ว่าจะออกมากี่รุ่นๆก็ตามซื้อมาตลอด นับตั้งแต่ 2.0, 2.5, 3.0 จนมาถึงรุ่น 3.5 คู่นี้ ความพิเศษสำหรับรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ก็คือ Altra ทำ Upper ออกมา 2 แบบให้เลือกตามชอบใจ คือ แบบผ้า Mesh for “Speed” และแบบผ้า Knit for “comfort” 

ปกติเราจะใช้ Torin วิ่งทุกระยะ ตั้งแต่ 5 กิโล จนถึง 100 กิโลก็ใช้คู่นี้ เรียกได้ว่าเราใช้งานอย่างเต็มที่เลยทีเดียว เลือกไปเลือกมาสุดท้ายก็เลือกรุ่น Mesh เพราะต้องการความทนทาน ผ้า Mesh จะอยู่ทรงกว่า Knit บวกกับน้ำหนักที่เบากว่ารุ่น Knit อยู่นิดหน่อย เรามาดูกันว่า Altra Torin 3.5 Mesh รุ่นนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างที่ทำให้เราหลงรักรองเท้าคู่นี้มากขนาดนี้



Specs
Approx.Weight:  9.3 oz./264 g US 9
Stack Height: 28/28, Zero Drop 


    1.  Upper Altra ใช้ Quick-Dry Air Mesh ที่เป็นผ้า Mesh แบบเป็นรู ซึ่งตรงนี้ถ้าใครเคยใช้ Torin 2.0 จะจำได้ว่ารุ่นนี้มี Upper ที่เป็นผ้า Mesh แบบรูที่นุ่มและใส่สบายมากกก แม้ว่า Altra จะเปลี่ยนผ้า Mesh มากี่รุ่นๆ เราก็ยังคิดถึง Upper รุ่น 2.0 อยู่เลย จนมาถึงรุ่น 3.5  ไม่รู้อะไรดลใจให้ Altra กลับมาใช้ผ้า Mesh แบบเป็นรูอีกครั้ง ซึ่งเราชอบมากๆ เพราะทั้งนุ่ม ยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ดี




สิ่งที่เราชอบมากของรุ่นนี้ก็คือส่วนของตรงกลาง Upper  มีการออกแบบแผ่นพลาสติกเป็นทรงคล้ายตัว A ขึ้นมาหุ้มบริเวณหลังเท้าข้างละ 2 อัน ซ้าย-ขวา โดยเชือกรองเท้าจะร้อยผ่านรูของแผ่นทรงตัว A นี้ ทำให้รู้สึกกระชับหลังเท้ามากขึ้น เชือกรองเท้าของรุ่นนี้มีความยาวกำลังดีเป็นทรงแบนที่มัดแล้วแน่นหนาไม่เลื่อนหลุด ส่วนของลิ้นรองเท้านั้นออกแบบมาได้หนานุ่มไม่กดทับเท้าเลย แถมยังมีรู 3 รูให้เชือกรองเท้าร้อยผ่าน ตัดปัญหาเวลาวิ่งแล้วลิ้นรองเท้าชอบร่นไปได้เลยค่ะ




นอกจากนี้ Altra ยังออกแบบหนังนิ่มๆขึ้นทรงเป็น Upper ตรงบริเวณกลางรองเท้าส่วนที่เป็นรูร้อยเชือก 3 รูสุดท้ายไปจนถึง Upper ตรงข้อเท้าและส้นรองเท้าเพื่อช่วยให้รองเท้าเป็นทรง ไม่ย้วยง่ายอีกด้วย ตรงส่วนที่หุ้มส้นเท้า(heel cup) ออกแบบมาได้หนานุ่มกำลังดี มีความกระชับแน่น ข้อเท้าไม่ไถลไปมา ทำให้วิ่งได้อย่างมั่นใจ Altra ยังใส่ Heel Loop มาให้ถึง 2 ที่คือ ตรงส้นรองเท้าและลิ้นรองเท้า สามารถนำรองเท้าไปแขวนหรือหิ้วไปไหนมาไหนได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานของนักวิ่ง 




     2. Midsole Altra ยังคงใช้ midsole ตัวเดิม คือ EVA , A-Bound top layer และ Inner Flex™ Inner Flex™ ถูกออกแบบให้เป็นร่องที่มีความยืดหยุ่นคล้ายตารางอยู่ตรง Midsole ที่จะช่วยให้เราสามารถวางเท้าเวลาวิ่งได้ตามที่ต้องการ EVA และ A-Bound ยังช่วยเด้งส่งแรง ลดแรงกระแทกพื้นและช่วยในการสปริงตัว เพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น



    3.  Outsole สำหรับ Torin 3.5 Mesh แล้ว Outsole ยังคงเป็นแบบเดิมที่ดีอยู่แล้ว นั่นก็คือใช้เทคโนโลยี FootPod™  ที่ช่วยให้ Outsole มีความยืดหยุ่นรับกับฝ่าเท้าทั้งในส่วนของกระดูกและเส้นเอ็น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวและการวางเท้าเวลาวิ่งได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น จากในภาพจะเห็นส่วนสีเทาที่เป็นแผ่นยางที่มีความยืดหยุ่นและทนทานอยู่ในบริเวณที่เป็นจุดที่สัมผัสพื้นเวลาลงเท้าเพื่อขยายอายุการใช้งานของพื้นรองเท้าไม่ให้สึกง่าย


1   4. Fit4Her อันนี้สำหรับสาวๆโดยเฉพาะ Altra เค้ามีความพิถีพิถันในการออกแบบว่า รองเท้าผู้หญิงจะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สอดคล้องกับรูปเท้าของผู้หญิงที่มีความแตกต่างจากของผู้ชาย ซึ่งมีถึง 9 ข้อ

- Narrower Heel
- Female-Specific Midsoles
- Longer Arch and Narrower Midfoot
- Higher Instep
- Female-Specific Cushioning
- Female-Specific Metatarsal Positioning
- Female-Specific Last and Upper Fit
- Female-Specific Shape
- Female-Specific Outsoles


มาถึงการใช้งานจริง ตอนแรกเราอยากได้รองเท้าสีชมพู แต่ Altra Thailand ไม่เอาสีชมพูเข้ามาขาย มีตัวเลือกคือ สีน้ำเงินและสีขาว เลือกอยู่ตั้งนานสุดท้ายก็เลือกสีขาวเพราะมีรองเท้าสีน้ำเงินหลายคู่แล้ว พอได้เห็นตัวจริงแล้วแอบกรี๊ด เพราะสวยมากกกก ตัวรองเท้าเป็นสีขาวปนเทามีลายเส้นตัดเป็นสีเขียวซึ่งใส่แล้วดูเป็นนักวิ่งเรียบร้อยนิสัยดี ใครที่ลังเลกลัวสีขาวจะไม่สวย ขอบอกว่า ของจริงสวยมาก ไม่ได้ดูเป็นรองเท้าพละนักเรียนแบบที่คิดไว้ตอนแรกเลยค่ะ



ทั้ง Upper ทั้งสีก็ชอบมากๆแล้ว พอได้วิ่งจริงๆแล้วก็ยิ้มตั้งแต่ 10 เมตรแรกเลย มันนุ่ม เด้ง กระชับ และใส่สบายมากกกกกก  จะทางเรียบ ขึ้นเนิน ลงเนิน light trail ก็ยังไหว บอกได้เลย ตั้งแต่ซื้อรองเท้าวิ่งมา Torin เป็นไม่กี่รุ่นที่เราซื้อคู่ใหม่ทุกครั้งที่ออกรุ่นใหม่และเวลาลองใส่วิ่งครั้งแรกก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยค่ะ เห็นส้นหนา High Cushioned แบบนี้  แต่กลับให้ความรู้สึกที่มั่นคง ไม่ยวบยาบ แถมยังเด้งส่งแรงได้ดีอีกต่างหาก จะวิ่งเพซ 4 เพซ 5 ก็ไม่มีปัญหาค่ะ

มาถึงสิ่งที่คิดว่าควรปรับปรุง... ไม่มีเลยค่ะ สำหรับเราแล้ว Torin 3.5 Mesh คู่นี้คือ Torin รุ่นที่เราชอบที่สุดเพราะได้รวมเอาสิ่งดีๆจากรุ่นก่อนๆมาอยู่ในคู่นี้คู่เดียว  ทั้ง Upper Midsole Outsole ชอบหมดเลยยยย

สรุป   มันดีงามเหลือเกิน สาวก Torin ทุกคนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เป็นรองเท้าที่ครอบจักรวาลมาก จะวิ่งระยะไหนก็ใส่ได้ Fun Run ยัน Ultra ทั้งสายสุขนิยมรักสบาย ไปจนถึงสายโหดในวันที่อยากให้รางวัลตัวเอง Recovery Day วิ่งเบาๆ เป็นรองเท้าที่ทำให้รู้สึกว่า มาเลย จะให้วิ่งกี่กิโลก็ว่ามาได้เลย อะไรแบบนี้ ไม่ว่าระยะไหนมันจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน เชียร์จริงจัง!​

** รองเท้าคู่นี้ซื้อเอง ใช้เอง รีวิวด้วยตัวเองค่ะ **



Gear Review: Altra Solstice >> Excellent choice for a racing flat lover!

นักวิ่งคนไหนเป็น Racing flat lover ชอบรองเท้าวิ่งพื้นบางๆ น้ำหนักเบาๆ วิ่งแล้วตัวเบาหวิวเชิญมาทางนี้ค่า วันนี้เราจะมาพูดถึง Altra Solst...