วันนี้จะมาบอกเล่าประสบการณ์วิ่งเทรลครั้งแรกของเรา กับรายการ The Northface 100 Thailand 2016 ค่ะ :)
ออกตัวก่อนเลยว่า เราเป็นนักวิ่งถนนทางเรียบที่ไม่เคยคิดจะวิ่งเทรล เพราะเป็นคนไม่ชอบความเลอะเทอะ ฝุ่น และกลัวงู! ^0^ รองเท้าเปื้อนนิดหน่อยนี่ไม่ได้เลย เผอิญช่วงนั้นมีงาน The Northface 100 Thailand มาจัดแถวบ้าน คุณสามีเลยชวนไปวิ่งเพราะเค้าอยากวิ่ง เราเลยจำเป็นต้องวิ่งด้วย ลงกันที่ระยะ 15 กิโล เป็นเทรลเด็กๆ ในรายการมีทั้งระยะ 15,25,50 และ 100 กิโลเมตร วิ่งกันเช้ามืดยันดึกเลยทีเดียว
ช่วงก่อนลงแข่ง ช่วงนั้นเราเพิ่งไปปฏิบัติธรรมมา 7 วัน ออกมาอาทิตย์ถัดไปก็ลงแข่งเลย และได้ลองวิ่งทางเทรลแถวบ้าน เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ในใจก็คิดว่าไม่ฟิตเลย แถมฟิลลิ่งเทรลก็ยังไม่อิน ก็คิดว่าวิ่งเอาสนุกๆ เท่านั้นค่ะ เนื่องจากลงแค่ 15 กิโล อุปกรณ์จึงไม่เยอะ ^0^ พกแค่เข็มขัดน้ำเท่านั้น รองเท้าก็เป็น Brook pure grit 3 รุ่นเก่าที่ซื้อมากะใส่แค่งานเดียว และใส่รัดน่อง CEP เจ้าเก่า :)
และแล้วก็มาถึงวันงาน... งานนี้จัดในช่วงสิ้นเดือนมกราคม อากาศที่ปากช่องยังหนาวอยู่ (แต่พอแดดออกก็ร้อนน่าดูชม) โดยงานนี้จัดขึ้นโดยใช้สถานที่ปล่อยตัวที่สิมาลินทร์รีสอร์ท อยู่ทางฝั่งเขาใหญ่ วันวิ่ง เราก็แค่ขับรถข้ามฝั่งจากเมืองปากช่องไปสบายๆ บรรยากาศงานคึกคักมากกกก คนเยอะ เนื่องจากเป็นเทรล จึงปล่อยตัวที่ 7.45 นาที ทางผู้จัดวางแผนการปล่อยตัวได้ดี โดยการปล่อยเป็นเวฟๆไปตามระยะ เพศ และช่วงอายุ เนื่องจากรายการนี้มี chip จับเวลา จึงไม่ต้องกังวลเรื่องปล่อยตัวก่อนหลัง เราอยู่ในกลุ่มผู้หญิงสาวอายุ 19-29 ปี :)
เราเป็นคนในท้องที่เราจึงรู้ว่า แดดปากช่องหน้าหนาวนี่ร้ายกาจขนาดไหน เลยใส่เสื้อแขนยาวไว้ก่อนเลย กันหนาวช่วงแรกได้ด้วย
พอเริ่มวิ่ง บรรยากาศการแข่งขันก็มา เพราะปล่อยเป็นเวฟช่วงแรกจึงวิ่งกันแต่กับผู้หญิงช่วงอายุเดียวกัน ทางวิ่งช่วงแรกเป็นถนนเล็กน้อย ก่อนจะลัดไปตามถนนเข้าไร่ของชาวบ้าน ตอนนั้นแดดยังไม่ออก อากาศกำลังดี เราก็วิ่งไปเรื่อยๆ เพสไม่เร็วมากเพราะคนเยอะ มีบางช่วงพอทำเวลาได้บ้าง เจอเนินยาวๆอยู่ 2-3 เนิน ช่วงนั้นเริ่มวิ่งมาทันพวกผู้ชายที่ออกมาก่อน และระยะ 25 กิโลบางคนแล้ว สักพักพอแดดออก โอ้โห ร้อนมากกกกกกเลยค่ะ แสงแดดแผดเผา บางช่วงต้องหยุดดื่มน้ำที่พกมาด้วยเพราะร้อนจริงๆ ในใจก็คิดนะคะ ทำไมแดดแรงจัง แถมช่วงนั้นเป็นหน้าแล้ง หน้าแล้งเขาใหญ่เนี่ย แล้งจริงๆ วิ่งกันฝุ่นตลบเลยทีเดียว ^0^
ภาพมุมสูงจากทีมงาน แลดูวิ่งจริงจังมาก ^0^
ช่วงหลังๆ จะมีจุดให้น้ำบ้าง ช่วงที่เป็นทางแยกทางอะไรก็จะมีทีมงานคอยบอก และเราต้องสังเกตริบบิ้นบอกทาง ในส่วนของเส้นทางของ 15 กิโลนั้น เราว่าไม่โหดมาก มีเนินพอให้ขาสั่น และมีข้ามทางวิบากเล็กน้อย ทางทีมงานก็คอยช่วยฉุดดึงอยู่แล้ว
ตอนข้ามทางวิบาก ถูกตากล่องถ่ายไว้หลายรูปเลยค่ะ ^0^ ขอบคุณภาพจากทีมงาน The northface
ในที่สุดก็มาถึงช่วง 3 กิโลสุดท้าย ออกมาจากป่าเข้าสู่ทางถนนลาดยาง ช่วงนั้นแวะซุ้มน้ำ แล้วเราก็วิ่งต่อ ตรงนั้นจะมีเนินยาวมากๆเนินหนึ่ง แต่เป็นการวิ่งลง เราสังเกตว่า หลายคนเดินกันแล้ว อาจเพราะเหนื่อย หรืออยากถนอมเข่า ตอนนั้นเราวิ่งลงฉิวเลยค่ะ sprint ลงเนินด้วย :) จำได้ว่าแซงนักวิ่งไปเป็นร้อยๆคนแน่ๆ ความรู้สึกตอนนั้นคือ สนุกมากกก ทางที่เราซ้อมทุกวัน เจอเนินทุกวัน ได้ขึ้นได้ลงเนินตลอด เราเลยไม่เคยกลัวเนินเลย อาศัยแรงส่งจากเนิน จึงทำเวลาได้ค่อนข้างดี จนกระทั่งวิ่งเข้าเส้นชัยไปอย่างชิลล์ๆ ;)
สรุปเวลาตาม Garmin ที่ 1.51 ชั่วโมง จาก chip อยู่ที่ 1.50 ชั่วโมงค่ะ
สรุปเวลาตาม Garmin ที่ 1.51 ชั่วโมง จาก chip อยู่ที่ 1.50 ชั่วโมงค่ะ
หลังจากพักแล้ว เราก็มารอสามีที่หน้าเส้นชัย นานมากกกก 5555 คือเราน่าจะวิ่งเสร็จก่อนสามีเกือบชั่วโมงได้ ตอนสามีเข้าเส้นชัยมา หน้าตาบอกบุญไม่รับอย่างแรง เพราะเขาเกลียดอากาศร้อนมาก ^0^ พักๆกันเสร็จ ทีมงานก็ประกาศว่า ระยะ 15 กิโล ให้ไปเช็คผลการแข่งขันได้เลย เราก็พูดเล่นๆว่า ไปดูหน่อยดีกว่า สามียังว่า รายการใหญ่ ไม่น่าจะติดอันดับ... พอเดินไปดูที่บอร์ดเท่านั้นแหละ สามีเราขำก๊ากเลย ปรากฏว่า เราได้ที่ 1 ในช่วงอายุ!!
มาดูสถิติจาก chip กันบ้าง เราได้อันดับที่ 65 จาก 932 คน เป็นผู้หญิงคนที่ 16 จาก 514 คน และเป็นคนแรกในช่วงอายุ นั่นแปลว่า 15 คนแรกที่เข้าเส้นชัยก่อนเรา เป็นผู้หญิงอายุ 30 กันทั้งนั้น! ถ้าเราอายุ 30 เราจะต้องวิ่งเร็วกว่านี้ ถึงจะติดอันดับ ^0^
สรุป คะแนนเต็ม 10 รายการนี้ เราให้ 9 คะแนนเลย เพราะได้ถ้วย 555 ไม่ใช่ค่ะ เพราะข้อดีข้อเสียดังต่อไปนี้
ข้อดี
1. ระยะอื่นเราไม่รู้ แต่ระยะ 15 กิโลนี่ ระบบการจัดการดีไม่มีปัญหาอะไรเลย ทั้งรับเบอร์วิ่ง การปล่อยตัว
2. ทีมงานมืออาชีพ พิธีกรทำหน้าที่ได้ดีมาก มีการประกาศชื่อนักวิ่งตอนเข้าเส้นชัยด้วย บรรยากาศในงานจึงดี
3.จุดให้น้ำห่างตามปกติของเทรล คนที่ไม่พกเข็มขัดน้ำคงลำบากไม่น้อยเพราะแดดร้อน แต่เราไม่มีปัญหาอะไร อาหารกับน้ำตอนเข้าเส้นชัยครบครัน
ข้อเสีย
ข้อเดียวเลยค่ะ ที่จอดรถ! ที่จอดรถเป็นเหมือนทุ่งหญ้าที่ถูกปรับสภาพโดนรถไถให้เป็นที่จอดรถ หลุมเยอะมากกก และหลุมลึกด้วย ขนาดรถเราเป็นรถใหญ่ยังต้องค่อยๆไต่ รถเล็กนี้ท้องครูดกับพื้นแน่ๆ แถมยังมีกิ่งไม้สารพัด พร้อมครูดใต้ท้องรถ อยากให้ช่วยปรับให้เรียบร้อยกว่านี้ สงสารรถนักวิ่งบ้างเถอะค่ะ ^0^"
กลายเป็นว่า เราหลงรักการวิ่งเทรลไปเลย ไม่คิดว่าจะทำผลงานได้ดีด้วย เลยกลายเป็น first impression ไป :) ปีหน้าลงอีกแน่นอน แต่จะเป็นระยะ 50 กิโล ! ไว้จะมารีวิวนะคะ ว่า รอดไม่รอด! ^0^
ขอบคุณภาพจาก shutter running ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น