Salomon เป็นแบรนด์ outdoor ชื่อดังที่มีจุดกำเนิดที่ฝรั่งเศสโดย François Salomon ภรรยา และลูกชาย Georges Salomon
ได้ก่อตั้ง Salomon Group ขึ้นมาในปี 1947 ปัจจุบันได้ถูกซื้อกิจการไปโดย Amer Sports ยักษ์ใหญ่แห่งวงการ
outdoor จาก Finland (เจ้าของเดียวกับ Suunto,
Arc’teryx, Mavic และอีกมากมาย) กว่า 70 ปีที่ผ่านมา Salomon
คือ กลุ่มผู้นำแห่งวงการอย่างแท้จริง โดยเฉพาะวงการวิ่งเทรล
รองเท้าเทรลของ Salomon คือหนึ่งในสินค้าที่มีชื่อเสียงที่สุดที่นักกีฬาระดับโลกหลายคนเลือกใช้
ไลน์สินค้าของ Salomon แบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม S/LAB series คือ
หนึ่งในไลน์ของสินค้าที่มีความพิเศษที่สุด (แน่นอนว่าแพงที่สุดเช่นกันค่ะ)
S/LAB ย่อมาจาก Salomon Laboratories เป็นไลน์สินค้าที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่างทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของ
Salomon นักออกแบบ และ นักกีฬาชั้นนำระดับโลก
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์จาก S/LAB series นี้
ตอบสนองความต้องการของนักกีฬาได้ดีที่สุด ทั้งสวยงาม
ทนทานและมีประสิทธิภาพที่สุด
หนึ่งในรองเท้าเทรลที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Salomon S/Lab Series นี้ก็คือ ตระกูล sense Salomon S/Lab Sense 6 คู่นี้นั่นเอง
Salomon S/Lab Sense 6 ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Racing คือรองเท้าสำหรับใช้แข่ง จุดเด่นคือ สีสันที่สดใสมาก สีแดงสด
และความบางและเบา เพื่อตอบสนองต่อความเร็วในการวิ่ง มันมีน้ำหนักเพียง 7.7 oz
เท่านั้น (size 9 US) Stack
Height 18mm/14mm (4mm
drop) เราถึงคิดถึง รถ Ferrari
เลย ทั้งสีสัน ความเร็ว ความพรีเมี่ยม รวมถึงราคา มันคือ Ferrari
Style ชัดๆ มาดูกันค่ะว่า Salomon อัดเทคโนโลยีอะไรลงไปในรองเท้าคู่นี้กันบ้าง
1.Upper
Salomon S/Lab Sense 6
มี upper ที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ
ผ้าบางมากถึงมากที่สุด เป็น single layer mesh ผสมกับ Nylon ที่ยืดหยุ่นสุดๆด้วยเทคโนโลยีเฉพาะจาก Salomon คือ 3D SENSIFLEX™ ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างความกระชับและความยืดหยุ่น
ตรงปลายเท้าจะเป็นผ้าตาข่ายที่บางมากๆ บางจนเห็นเลยว่าเราใส่ถุงเท้าสีอะไร
แต่ถึงจะบางแบบนี้กลับทนทานมากๆ ใช้งานสมบุกสมบัน ไม่ได้ขาดง่ายเลย สีสันก็สดใสมากๆ
เป็นสีแดงสด ที่เรียกได้ว่า เห็นไกลๆก็รู้ว่า ใส่ Salomon เป็นสีอันเป็นเอกลักษณ์จริงๆ
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี endoFIT™
คือแผ่นบริเวณลิ้นรองเท้าด้านใน
ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการโอบกระชับตรงกลางเท้าเพื่อการเคลื่อนไหวที่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Salomon ก็คือ เชือกรองเท้า
จะเป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า Salomon Quicklace system เป็นเชือกรองเท้าที่ออกแบบมาให้ไร้แรงเสียดทาน
สะดวกต่อการใช้งานที่สุด สามารถดึงเพียงครั้งเดียวก็กระชับทุกส่วน
มีตัวล็อคที่แน่นหนา
ล็อคเสร็จแล้วก็ม้วนๆเก็บไว้ในช่องเก็บเชือกรองเท้าที่อยู่ด้านบนได้เลย
ไม่ต้องกลัวหลุดเลื่อน แน่นหนากระชับขั้นสุด คือ ครั้งเดียวจบจริงๆ
ตรงส่วนของ heel
cup คือ upper ด้านบนส่วนข้อเท้า
ออกแบบมาได้ค่อนข้างบาง ไม่หนา เพื่อลดน้ำหนักของรองเท้าให้เบาที่สุด
และมีความกระชับมากเช่นกัน ปกติเวลาวิ่งเทรล เราจะใส่ Gaiter กันหินทรายกระเด็นเข้าเท้า แต่ตอนที่ใช้คู่นี้วิ่ง 50 กิโล งาน Ultra Trail NAN ไม่ได้ใส่ก็ไม่เป็นไร
เพราะความกระชับนี้ที่หินทรายแทบไม่เข้าเท้าเลย
เวลาขึ้นเนินลงเนินก็ไม่ต้องกลัวรองเท้าเลื่อนหลุด จะขยับเท้าไปทางไหนก็ไม่มีกังวล
2. Midsole
เป็นการผสมผสานกันของ Salomon
EnergyCell+ cushioning system
ที่ตอบโจทย์เรื่องความเบาและยังมีคุณสมบัติช่วยส่งกลับแรงกระแทกคืนสู่เท้าในขณะวิ่ง
ร่วมกับ Dual Density Compressed EVA ที่ช่วยในเรื่องความกระชับขั้นสุด
นอกจากนี้ยังมี Salomon’s ProFeel Film ที่เป็นแผ่น carbon
fiber ที่นอกจากจะช่วยป้องกันเท้าจากสนามที่มีหินเยอะๆเหมือน rock
plate แล้ว ยังช่วยในการวางเท้ายกเท้าจากส่วนของปลายไปจนส่วนหน้าของรองเท้าให้มั่นคงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในขณะเดียวกันก็ยังไม่หนาจนเกินไปที่จะช่วยให้นักวิ่งสามารถรับรู้ถึงพื้นผิวสัมผัสที่เป็นเสน่ห์ของการวิ่งเทรล
3. Outsole
ส่วนนี้คือพระเอกเลย
นักวิ่งหลายคนเคยบอกว่า grip ของ Salomon คือ grip ที่ดีที่สุดในโลก นั่นก็คือ Premium
Wet Traction Contagrip เป็น grip ที่เหนียวแน่นหนึบมากกกก
เป็นรูปทรงเลขาคณิตหลายรูปแบบที่ถูกจัดวางอย่างดีเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่สุด
เกาะพื้นดีที่สุด ไม่ต้องกลัวลื่น นอกจากนี้ยังมี Salomon’s OS Tendon
technology ที่จะช่วยในการยกเท้าวางเท้าให้smooth มากขึ้นไปอีก
มาถึงการใช้งานจริง...
ต้องออกตัวก่อนว่า เราไม่ใช่นักวิ่งแนวหน้าวิ่งเร็ว
แต่ไม่มีปัญหากับการใส่รองเท้าบาง ที่ผ่านมาโจทย์ในการเลือกรองเท้าเทรลคือ grip
ดี และใส่วิ่งถนนได้ ตอนแรกที่เห็น Sense 6 คู่นี้
ไม่ได้มีความคิดว่าจะซื้อ แต่พอได้ลองเท่านั้นแหละ อยากได้ขึ้นมาเลย 555 ต้องบอกว่าครั้งแรกที่เห็นรองเท้า
อื้อหือ มันสวยมากกกก สีแดงแจ๊ดดดเลย พอลองจับดูที่ตามมาคือ โห มันเบามากๆเลย
มันเป็นรองเท้าเทรลคู่ที่บางและเบาที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย
ความรู้สึกแรกที่ได้สวมเท้าเข้าไปคือ มันดีมากกก กระชับ แต่ขยับเท้าได้สบายมาก
ที่สำคัญเวลาเดินไปมาตอนนั้นยังรู้สึกได้ถึงความหนึบที่ฝ่าเท้า ตอนแรกคิดว่าจะแข็งมาก
แต่ก็ไม่แข็งมากอย่างที่คิด ยังใส่สบายดี
จนได้มีโอกาสเอาไปวิ่งงาน Ultra
Trail NAN 50k เส้นทางวิ่งจริงๆแล้วมีถนนเยอะ พื้นก็แข็ง
แต่ตอนนั้นตัดสินใจเอา sense 6ไปเพราะคิดว่าเอาอยู่ 555 แล้วมันก็เอาอยู่จริงๆ
เวลาวิ่งถนน มันก็เป็นรองเท้าที่ดีคู่หนึ่ง ตอบสนองได้ดี ไม่ลื่น ไม่แข็งเกินไป
เหมือนรองเท้า racing แต่พอเป็นทางเทรล เชื่อแล้วจริงๆว่า grip
ของ Salomon คือ grip ที่ดีที่สุดในโลก
มันเหนียวแน่นหนึบจริงๆค่ะ เราชอบความรู้สึกที่แน่นๆหนึบๆนี้มาก ไม่ยวบ แข็งแรง
คือ มั่นใจว่ามันจะพาเราไปได้ทุกที่ ทุกสภาพพื้นผิว
ทางวิ่งมีส่วนที่ต้องลุยน้ำลงไปที่ลำธารด้วย
เราใส่รองเท้าลุยน้ำเลย ปรากฏว่า แห้งไวมาก ขึ้นมาจากน้ำก็ไม่มีลื่นเลย
ยังเกาะพื้นดีเหมือนเดิมเด๊ะ ประทับใจสุดๆ ส่วนของเชือกรองเท้าก็เป็นอะไรที่ดีมาก
หมดปัญหาเชือกรองเท้าหลุดระหว่างวิ่งไปเลย
จะเป็น uphill downhill ก็แทบไม่มีลื่น กระชับ
มั่นใจ ส่วนตัวคิดว่า sense6 คู่นี้ แทบจะเอาอยู่ทุกสภาพพื้นผิว
จะวิ่งถนนก็ยังทำได้ดี ครบเครื่องมาก
สิ่งที่ชอบจากคู่นี้อีกอย่างคือ การรับรู้ถึงพื้นผิวสัมผัสของทางวิ่ง
เพราะความที่มันค่อนข้างบาง มันเลยได้ความรู้สึกที่ดีมากๆ
นักวิ่งที่ชอบรองเท้าที่ให้ความรู้สึกของผิวสัมผัสที่ดี รับรองว่าจะต้องหลงรักคู่นี้
มาถึงส่วนที่เป็นข้อเสียกันบ้าง
จะรองเท้าดียังไงก็ต้องมีข้อเสียค่ะ
1.
แน่นอน
ข้อเสียที่สำคัญที่สุดก็คือ ราคา เพราะอยู่ในไลน์ S/LAB มันจึงราคาค่อนข้างสูง
(Ferrari Style จริงๆ 5555)
แต่เทียบกับประสิทธิภาพแล้ว คิดๆดูยังไงก็คุ้มค่ะ นี่ยังคิดเลยว่า ถ้า grip
มันไปเยอะแล้ว จะเอามาเป็นรองเท้าวิ่งถนนดู คงเป็นรองเท้า Racing
ที่ดีคู่หนึ่งเลย
2.
ไซส์และขนาดสำหรับผู้หญิง Salomon
ขาย sense6 แบบรองเท้า Unisex คือ ผู้หญิงต้องเลือกจากไซส์ผู้ชาย ถ้าซื้อแบบไม่เคยลองมาก่อนอาจสับสนได้
แนะนำให้ลองจากเคาท์เตอร์ Salomon จะปลอดภัยที่สุดค่ะ
3.
ต้องย้ำกันอีกครั้งว่า... sense
6 เป็น รองเท้า Racing มันจึงเบาและบาง
เหมาะกับคนที่ชอบรองเท้าบางจริงๆ เราวิ่งเหยียบอะไรมันจะรับรู้ได้หมดเลยค่ะ
คนที่ชอบรองเท้าหนานุ่ม สายวิ่งสบายน่าจะไม่ชอบ
สรุป
สาย racing
สาย minimalist ต้องห้ามพลาดค่ะ
มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเร็ว ฟีลลิ่งที่ดี grip ที่ดีที่สุดในโลก
แถมสีสันก็สวยงามเป็น signature ของ Salomon มันคือ Ferrari Style จริงๆ !