วันอังคารที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561

Gear Reviw: Julbo Performance Photochromic Running Sunglasses>> Julbo Breeze Zebra & Julbo Race2.0 Zebra light

มีนักวิ่งคนไหนติดใส่แว่นกันแดดตอนวิ่งไหมคะ? เราเป็นคนหนึ่งที่เรียกได้ว่า ติดใส่แว่นตอนวิ่งมากๆ แว่นกันแดดนอกจากจะมีประโยชน์ปกป้องตาเราจากรังสี UV แล้ว สำหรับนักวิ่ง City Run บ่อยๆแบบเรา แว่นกันแดดจะช่วยป้องกันฝุ่นเข้าตาได้เป็นอย่างดี ใส่วิ่งตอนกลางคืนเปิด Headlamp ก็กันแมลงบินเข้าตาได้อีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นการลงทุนกับอวัยวะของร่างกายที่สำคัญไม่แพ้ขาเลยสำหรับนักวิ่ง

วันนี้ตั้งใจจะมารีวิวแว่นกันแดดสำหรับนักวิ่ง เป็น performance sun protection sunglasses ก็คือ Julbo 2 รุ่นที่ใช้อยู่เป็นประจำ ก่อนอื่นขอแนะนำแบรนด์ Julbo ก่อน เชื่อว่ามีหลายคนไม่รู้จัก และไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน Julbo เป็นบริษัทผลิตแว่นตาจากประเทศฝรั่งเศส ได้ก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี 1888 ตั้งอยู่บนเทือกเขา Jura ใกล้ๆกับประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยแรกเริ่มทำแว่นตาให้กับนักขุดอัญมณี (crystal hunters)แถบเทือกเขา Chamonix กว่า 130 ปีที่ผ่านมา Julbo ได้พัฒนาแว่นกันแดดสำหรับกิจกรรม Outdoor ต่างๆมากมาย ทั้งนักเดินป่า ปีนเขา เล่นสกี นักปั่นจักรยาน รวมไปถึงกิจกรรมทางน้ำ ที่สำคัญคือ แว่นตาสำหรับนักวิ่ง ทั้งวิ่งเทรลและวิ่งถนน

ก่อนรีวิวแว่นเราต้องพูดถึงเลนส์ของ Julbo ก่อน แว่นกันแดด 2 ตัวที่จะมารีวิววันนี้ เป็นเลนส์ 2 ชนิด คือ Zebra และZebra light ฟังชื่อก็พอจะเดาได้ใช่ไหมคะ ทั้ง 2 เลนส์นี้ เป็นเลนส์ Photochromic (transitional) นั่นคือ สามารถปรับแสงได้อัตโนมัตินั่นเอง มาลองดูกันค่ะว่า เลนส์ 2 ตัวนี้มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

1. Zebra 2-4 lens >> from shade to light
- NXT material วัสดุชนิดพิเศษนี้ไม่มีแตกหัก (unbreakable) ตัวเลนส์ไม่ละลาย (solvent resistant) น้ำหนักเบา และเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น
- Photochromic lens ตัวเลนส์ปรับแสงได้อัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับความเข้มของแสง โดย Protection Index อยู่ในประเภท 2-4 คือ แสงเข้าได้ 42 -7% ซึ่งเป็นช่วงที่กว้างมากๆ แถมยังเปลี่ยนแสงได้ในความเร็ว 22-28 วินาที!
- Exceptional antifog coating เคลือบสารป้องกันการเกิดฝ้าเกาะที่เลนส์
- Oil repellent coating เคลือบสารป้องกันการเกิดรอยน้ำมันเกาะที่เลนส์ เช่น รอยนิ้วมือเป็นต้น
- ตัวเลนส์สีน้ำตาล ช่วยในเรื่องทัศนวิสัย ทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้น


2. Zebra Light 1-3 lens >> From dawn to dusk
เลนส์ Zebra Light มีคุณสมบัติที่เหมือนกับ Zebra ทุกประการ คือ NXT material,เคลือบสารป้องกันการเกิดฝ้าเกาะที่เลนส์,เคลือบสารป้องกันการเกิดรอยน้ำมันเกาะที่เลนส์,ตัวเลนส์สีน้ำตาล แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ คุณสมบัติของ Photochromic lens ที่ตัวเลนส์ยังคงปรับแสงได้อัตโนมัติ ใน Protection Index อยู่ในประเภท 1-3 คือ แสงสามารถเข้าได้ 80% ถึง 16% ใช้ความเร็วในการเปลี่ยนแสง 22-28 วินาที โดยมีเทคโนโลยีที่เพิ่มเข้ามาคือ NTS Technology (Not temperature sensitive) คือ การทำงานการปรับแสงของเลนส์ Photochromic จะทำงานอย่างเสถียรไม่ว่าจะอยู่ภายใต้อุณหภูมิเท่าใดก็ตาม เข้าใจง่ายๆก็คือ เลนส์ Zebra light จะใสกว่า สว่างกว่า Zebra




และแล้วก็มาถึงแว่นกันแดด 2 รุ่นที่เราจะรีวิวในวันนี้ ตัวแรกก็คือ

** Julbo Breeze Zebra 2-4 lens **
นิยามของ Breeze ก็คือ 100% FEMININE AND 100% PERFORMANCE! Made in France ชัดเจนว่า แว่นกันแดดรุ่นนี้ก็คือ แว่นกันแดดที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เป็นแว่นกันแดดเพื่อนหญิงพลังหญิงนั่นเอง


1. Design : Breeze ถูกออกแบบมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ ให้เข้ากับรูปหน้าของผู้หญิง ตัวเลนส์เป็นรูปทรงหยดน้ำ ตัวกรอบมีหลายสีสันให้เลือกทั้งสีชมพูหวานแหววสำหรับสาวหวาน ไปจนถึงสีเทาดำสำหรับสาวเท่

2. Lenses : Spectron 3CF(Polycarbonate), Zebra,Zebra Light

3. Technology :
- Panoramic ตัวเลนส์ที่กว้างสำหรับการมองเห็นได้ในมุมมองที่กว้างขวาง
- 360 degree adjustable temples ขาแว่นปรับได้ทุกทิศทางเพื่อให้กระชับเข้ากับใบหน้าที่สุด
- Grip Tech ก้านแว่นเกาะแน่นกระชับ แต่ไม่กินผม
- Full Venting ออกแบบมาโดยคำนึงถึงการหมุนเวียนของอากาศเพื่อป้องกันการเกิดฝ้า
- 3D Fit Nose ตัวยางที่เกาะจมูกของตัวแว่นสามารถปรับได้ทุกทิศทางเพื่อให้เข้าได้กับทุกทรงจมูก แถมยังเกาะแน่นไม่หลุดทุกสถานการณ์
- Optical Clip สามารถตัดคลิปสายตาเพื่อนำมาติดกับตัวแว่นได้ สำหรับคนที่ไม่ใส่คอนแทคเลนส์
- Asian Fit รูปทรงของแว่นสามารถปรับเข้ากับใบหน้าคนเอเชียได้ (หน้าบาน มีโหนกแก้ม กะโหลกไม่ลึก และมีดั้งน้อย)
- RX Trem เป็นโปรเจคที่สามารถสั่งตัดเลนส์สายตาลงบนเลนส์กันแดดได้เลย ผลิตจากแล็บในประเทศฝรั่งเศส
- RX Clip โปรเจคเดียวกับ RX Trem แต่จะเป็นในส่วนของคลิปสายตา




 3D fit nose

 Zebra lens ที่ออกสีส้มๆชัดเจน


>> การใช้งานจริง<< ตั้งแต่ได้เห็นแว่นตัวจริง แวบแรกที่รู้สึกได้เลยคือ เลนส์ใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก ตัวเลนส์โค้งมนสวยงามสีน้ำตาลส้มๆ และดูแข็งแรงทนทาน จนได้ลองวิ่งจริงๆ เราเป็นคนวิ่งทุกเวลา คือ วิ่งเช้า วิ่งเย็น วิ่งกลางคืน จนไปถึงวิ่งทั้งวันเช้ายันค่ำ เลนส์ Photochromic ตอบโจทย์มากๆ เราสามารถใส่แว่นวิ่งได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เลนส์ Zebra สามารถรับมือกับแดดที่ร้อนแรงมากๆของปากช่องได้เป็นอย่างดี ใส่วิ่งสบายตา ตัวเลนส์ที่ใหญ่ครอบตาป้องกันรังสี UV ได้เต็มที่ ในขณะเดียวกันก็มีทัศนวิสัยการมองเห็นที่ชัดเจน เวลาที่วิ่งกลางแดดเลนส์จะปรับสีเข้มขึ้นอัตโนมัติ แต่เมื่อเข้ามาที่ร่มหรือไม่มีแดด เลนส์จะสว่างขึ้นจริงๆ ใช้เวลาปรับแสงไม่นานตามที่โฆษณาไว้เลยค่ะ อย่างที่บอก เราเป็นคนชอบวิ่ง city run เจอฝุ่นตามถนนเป็นประจำ พอมาใช้ Breeze Zebra ตัวนี้ เราสามารถใส่แว่นวิ่งเพื่อป้องกันฝุ่นเข้าตาได้ตั้งแต่เย็นจนถึงค่ำได้เลย ขนาดที่ว่าใส่วิ่งตอนมืดก็ยังทำได้ ไม่มืดจนเกินไป เวลาวิ่งเทรล อยู่ในร่มต้นไม้ก็สว่างพอ มองเห็นทางได้ชัดเจน ตัวเลนส์เวลาวิ่งในวันที่ร้อนอบอ้าวแม้จะมีฝ้ามาเกาะ ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว สามารถวิ่งได้อย่างสบายใจ

การออกแบบของแว่นกันแดด Breeze เข้ากับหน้าและกะโหลกคนเอเชียได้จริงๆ เคยเจอปัญหากันไหมคะ เวลาใส่แว่นแล้วไม่กระชับ ดั้งไม่มีให้แว่นเกาะ เวลายิ้มแล้วแว่นกระดก เราเป็นแบบนั้นเลย ด้วยความเป็นคนไม่มีดั้ง และแก้มเยอะมาก แต่กับ Breeze กระชับดีมาก ตัวยางเกาะจมูกสามารถปรับได้ทุกทิศทาง สามารถวางแว่นบนจมูกน้อยๆของเราได้โดยไม่เลื่อนหลุด ตัวขาแว่นเป็นทรงตรงยาวๆปรับได้ทุกทิศทาง กระชับและเกาะหน้า แต่ไม่กินผม ที่เป็นปัญหาใหญ่ของนักวิ่งสาวๆ สามารถถอดเข้าถอดออกได้โดยไม่ต้องกังวล
วัสดุและการประกอบแว่นกันแดด Breeze ตัวนี้ดูแข็งแรงทนทาน แม้ตัวเลนส์จะถูกยึดไว้กับกรอบแค่ด้านบน แต่ก็แข็งแรงมาก ตัวขาแว่นที่ใช้งานเป็นประจำก็มีนอตยึดไว้แน่นหนา แม้ว่าหากใช้งานไปนานๆอาจต้องมีการใช้ไขควงปรับให้แน่นบ้าง ตัวเลนส์ของ Julbo มีคุณภาพมาก เราใช้แว่นตัวนี้มา 2 ปี ตั้งแต่ซ้อมจนถึงสนามแข่ง เข้าป่าวิ่งเป็น 10 กว่าชั่วโมงก็เอาคาดหัว ใส่เป้น้ำไปด้วย เจอแรงกระแทก เจออะไรมาก็เยอะ เลนส์ยังใสกิ๊งแทบไม่มีรอย มั่นใจได้ว่าจะไม่ถลอกเหมือนบางแบรนด์แน่นอน

>>สิ่งที่ไม่ชอบ<< แม้จะเป็นแว่นตาตัวโปรด แต่ก็มีบางอย่างที่เราไม่ชอบ
- คราบเหงื่อ เราเป็นคนเหงื่อเยอะมากๆ และเหงื่อมักไหลเข้าไปในแว่นตา มีความรู้สึกว่า เลนส์ Zebra เป็นคราบได้ง่ายกว่า Zebra light ที่จะรีวิวข้างล่าง
- ทำความสะอาดยาก ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า ว่าเลนส์ Zebra ทำความสะอาดยากกว่า Zebra light ปกติเราจะล้างแว่นด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ ตัวเลนส์ทำให้น้ำจับตัวเป็นหยดๆไหลผ่านไป คล้ายๆใบบัว เลยต้องล้างหลายรอบ
- เนื่องจากตัวเลนส์ไม่มีกรอบด้านล่าง เวลาวางบนแก้มอันปังแมนของเรานานๆแล้วทิ้งรอยไว้ อันนี้เป็นปัญหาของแก้มเราเอง คนอื่นอาจไม่เจอค่ะ😂
- ขาแว่นไม่กินผมก็จริง แต่ด้วยเลนส์ที่ไม่มีกรอบด้านล่าง ทำให้เวลาดึงแว่นจากตาไปคาดหัวผ่านขึ้นไปทางหน้าผาก ตัวเลนส์ตรงส่วนโค้งๆใกล้กับตัวยางเกาะจมูกจะลากผมขึ้นไป พอดึงแว่นออกจากหัวเพื่อเอากลับมาใส่จะติดผมมาด้วยเล็กน้อย อันนี้ถ้าใส่หมวกหรือถอดแว่นออกจากตามาถือไว้ ก่อนจะสวมเข้าไปที่ศีรษะโดยตรงจะไม่เจอปัญหานี้




** Julbo Race 2.0 Zebra Light 1-3 lens **
นิยามของ Race 2.0 ก็คือ READY FOR ANYTHING! Made in France แว่นรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ขายดีติดต่อกันมาหลายปี แม้จะเป็นแว่นที่มีกรอบเลนส์ด้านล่างแต่ก็มีน้ำหนักเบามากๆ แค่ 26 กรัมเท่านั้นเองค่ะ


1. Design : Race 2.0 อยู่ในไลน์ Speed ออกแบบมาได้โฉบเฉี่ยวมาก น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย เพราะเป็นแว่น Unisex จึงมีสีสันที่ค่อนข้างจริงจัง สีดำ เทา น้ำเงิน เป็นต้น สำหรับนักวิ่งสาวๆใส่แล้วก็ดูจริงจังเป็น Serious Runner

2. Lenses : Spectron 3CF(Polycarbonate), Zebra,Zebra Light

3. Technology : เหมือนรุ่น Breeze ทุกอย่าง ที่เพิ่มเติมมาคือ Curved, wrapping temples ซึ่งก็คือ การออกแบบทรงกรอบแว่นที่โค้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะและสวมใส่สบายมากขึ้น







>> การใช้งานจริง<< จริงๆแล้วเราเป็นคนชอบแว่นมีกรอบมาตลอด แต่ตอนที่ซื้อ Julbo อันแรก เลือก Breeze เพราะคำว่า ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ ที่ผ่านมาก็คาใจมาตลอด จนกระทั่งได้รุ่น Race 2.0 มาครอบครอง สิ่งที่สังเกตได้อย่างแรกคือ น้ำหนักเบามากกกก เบากว่า Breeze อย่างรู้สึกได้ชัดเจน พอมาสังเกตการออกแบบก็พอเข้าใจได้ว่าทำไมถึงเบา ตัวกรอบและขาแว่นทำมาจากวัสดุอย่างดี เราเลือกสี Tortoiseshell gray / orange เพราะชอบตรงขาแว่นด้านในและนอกที่มีแถบสีส้มอยู่ เวลาใส่วิ่งแล้วดูจริงจัง แต่ก็แอบมีลูกเล่นนิดๆ

ที่ประทับใจที่สุดนอกจากน้ำหนักที่เบาแล้วก็คือ เลนส์ Zebra Light เมื่อมองเทียบกันกับ Zebra จะเห็นได้ว่า Zebra light สว่างกว่ากันอย่างชัดเจน และมีสีส้มน้ำตาลในเฉดที่อ่อนกว่า ซึ่งพอใส่วิ่งแล้ว เรากลับรู้สึกให้มุมมองภาพที่สบายตาและสมจริงกว่า การใส่แว่นตัวนี้วิ่งในป่า หรือวิ่งตอนเย็นจนถึงกลางคืนจึงสบายตามาก มองเห็นได้ชัดเจนไม่หลอกตา ที่เรากังวลก็คือ แดดอันร้อนแรงของปากช่องมากกว่า ปรากฏว่าพอใส่ออกแดดจ้าๆแล้ว ก็ยังสบายตา สามารถปรับแสงได้เข้มพอรับมือกับแดดจ้าๆของที่นี่ได้เป็นอย่างดี

วัสดุและการประกอบยังคงได้มาตรฐานของ Julbo ตัวเลนส์มีกรอบทั้งบนล่าง แข็งแรงทนทาน ถ้าสังเกตตรงด้านข้างส่วนขอบแว่นด้านบนของเลนส์จะเว้นช่องเล็กๆไว้ระหว่างเลนส์กับกรอบเพื่อการระบายอากาศที่ดี ป้องกันการเกิดฝ้า ขาแว่นบางและปรับได้ง่ายกว่า Breeze ตัวนอตที่ยึดส่วนขาแว่นก็ดูแน่นหนาดี คุณภาพและความทนทานของเลนส์ จากที่เคยพิสูจน์มากับ Zebra คิดว่า Zebra light ก็คงไม่แตกต่างกัน ทนทาน ไม่ลอก เป็นรอยได้ยากอย่างแน่นอน

นอกจากนี้คุณสมบัติๆอื่นก็ยังมีครบ ทั้ง ตัวยางเกาะจมูก ที่ปรับได้ทุกทิศทาง ขาแว่นที่กระชับแต่ไม่กินผม ตัวแว่นยังถูกออกแบบมาให้เข้ากับหน้าคนเอเชีย กระชับ ไม่เลื่อนหลุด ส่วนตัวรู้สึกว่า Race 2.0 ตัวนี้ กระชับและใส่สบายกว่า Breeze น่าจะเป็นเพราะน้ำหนักที่เบา ขาแว่นที่เป็นทรงโค้ง และการที่มีกรอบเลนส์ด้านล่างที่ไม่ทิ้งรอยกดไว้แม้จะใส่เป็นเวลานานก็ตาม ซึ่งตัวกรอบแว่นนี้ยังช่วยให้ปัญหาที่เราเจอกับ Breeze คือ เส้นผมที่ติดระหว่างตัวยางเกาะจมูกกับเลนส์เวลาถอดแว่นแล้วลากขึ้นไปวางไว้บนศีรษะหายไปอีกด้วย เรายังค้นพบอีกว่าเลนส์ Zebra light เกิดคราบได้ยากกว่า Zebra เช่นรอยนิ้วมือ หรือรอยเหงื่อ อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่ายกว่าด้วยค่ะ ล้างน้ำสบู่แค่รอบเดียวก็ใสกิ๊ง



>>สิ่งที่ไม่ชอบ<< ตั้งแต่ซื้อมายังไม่เจอสิ่งที่ไม่ชอบจาก Race 2.0 นี้เลยค่ะ จะว่าเราเห่อของใหม่ก็ได้ 555 คือ ถูกใจทั้งการออกแบบ และเลนส์ ชอบหมดเลย 
สรุป แว่นตา Julbo มีคุณภาพสูง ทั้งเลนส์ กรอบ การออกแบบต่างๆสมแล้วที่มีเป้าหมายของแบรนด์ที่จะเป็น outdoor spirit in the eyewear market โดยเฉพาะตัวเลนส์ ของเขาดีจริงๆ อยากให้ทุกคนได้ลองค่ะ 

Julbo มีหลายรุ่น หลายเลนส์ให้เลือก เราแนะนำว่า เลือกเลนส์ที่ถูกใจก่อนว่า อยากใช้เลนส์แบบไหน เช่น คนที่ชอบวิ่งทั้งวัน หรือวิ่งสายๆ เจอแดดเยอะๆ ดวงตาเซนซิทีฟ น่าจะชอบเลนส์ Zebra ส่วนคนที่ชอบวิ่งเช้า วิ่งเย็น วิ่งกลางคืน ชอบวิ่งเทรลหรือวิ่งในที่ร่มมากๆ ดวงตาไม่เซนซิทีฟ จะเหมาะกับเลนส์ Zebra Light มากกว่า จากนั้นจึงเลือกรุ่นที่ชอบ Julbo ทำเลนส์มาครบเกือบทุกแบบกับทุกรุ่นเลยค่ะ

 Race 2.0 (บน) vs Breeze (ล่าง)

 Breeze(ซ้าย) vs Race 2.0 (ขวา)

  Breeze(ขวา) vs Race 2.0 (ซ้าย)

 Race 2.0 (ล่าง) vs Breeze (บน)

Race 2.0 (บน) vs Breeze (ล่าง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Gear Review: Altra Solstice >> Excellent choice for a racing flat lover!

นักวิ่งคนไหนเป็น Racing flat lover ชอบรองเท้าวิ่งพื้นบางๆ น้ำหนักเบาๆ วิ่งแล้วตัวเบาหวิวเชิญมาทางนี้ค่า วันนี้เราจะมาพูดถึง Altra Solst...